เหล็กชุบ เหล็กชุบกัลวาไนซ์ คืออะไร มีคุณสมบัติอย่างไร
เหล็กที่ได้รับการชุบกัลวาไนซ์ จะทนทานต่อการกัดกร่อนและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
เรื่อง เหล็กขึ้นสนิม เป็นปัญหาหลัก ๆ ที่ผู้ใช้มักพบเจอ ซึ่งปัจจัยหลัก ๆ ก็มาจากความชื้นซึ่งเป็นปัจจัยที่เลี่ยงไม่ได้ แต่มีนวัตกรรมหนึ่งที่ชอบโจทย์ป้องกันการเกิดสนิมได้ดีมาก ๆ คือ เหล็กชุบกัลวาไนซ์ หลายคนคงจะเคยได้ยิน เหล็กชุบกัลวาไนซ์ ผ่านหูมาบ้าง ซึ่งในวงการค้าเหล็ก ค่อนข้างมีเหล็กสาระพัดชนิดที่ใช้ประโยชน์แตกต่างกันไป
การชุบกัลวาไนซ์ เป็นหนึ่งในวิธีที่นิยมเคลือบพื้นผิวเหล็กกันมาก เพื่อป้องกันสนิมได้ดีกว่าการทากันสนิมและยืดอายุการใช้งานได้ดีกว่าเหล็กแบบอื่น ๆ ซึ่งการทำกัลวาไนซ์สามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น การเคลือบด้วยวิธีการพ่น หรือการชุบกัลวาไนซ์ โดยเหล็กที่ผ่านกระบวนการขั้นต้นมาแล้ว จะเรียกว่า เหล็กกัลวาไนซ์
เหล็กชุบ (Galvanize) คืออะไร
การกัลวาไนซ์หรือการชุบกันสนิม เป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบันคือการชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน โดยเราจะชุบเหล็กลงไปในบ่อสังกะสีเหลวที่กำลังหลอมละลายในอุณหภูมิประมาณ 435-455 องศาเซลเซียส ซึ่งสังกะสีจะเคลือบติดกับพื้นผิวเหล็กหนามากขึ้นตามระยะเวลาที่แช่ในบ่อ โดย จะมีประโยชน์กับการป้องกันตัวเหล็ก วิธีการนี้มีชื่อเรียกว่า (Hot-Dip Galvanizing) ทั่วไปมักจะมีความหนาของชั้นเคลือบประมาณ 65 – 300 ไมครอน
ชั้นของสังกะสีที่เคลือบเหล็กอยู่นี่เอง จะช่วยป้องกันเนื้อเหล็กจากการกัดกร่อน ดังนั้นเหล็กที่ได้รับการชุบกัลวาไนซ์ จะทนทานต่อการกัดกร่อนและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เหล็กกัลวาไนซ์ที่ชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนจะเหมาะสำหรับการใช้งานเป็นส่วนประกอบของอาคารที่อยู่ภายนอกบ้าน ส่วนกลางแจ้ง หรือในบริเวณที่ต้องเจอกับความชื้นเป็นประจำ เช่น โครงสร้างหลังคา รางน้ำฝน เสาธง เสาโคมไฟถนน เหล็กชุบกัลวาไนซ์ก็จะสามารถทำหน้าป้องกันไม่ให้เกินสนิมได้
โดยเฉลี่ยอายุการใช้งานของเหล็กกัลวาไนซใน 1 ปี นั้นชั้นของสังกะสีจะถูกกัดกร่อนประมาณ 1 ไมครอน ดังนั้นการใช้ เหล็กกัลวาไนซ์ จึงเป็นที่นิยมและเหมาะอย่างยิ่งกับสถานที่ติดชายทะเล เพราะลมทะเล ละอองเกลือเป็นสภาวะการกัดกร่อนของเหล็กสูง เนื่องจากอายุการใช้งานยาวนานกว่า 50 ปี และไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษามาก ส่วนการชุบสังกะสีหรือชุบซิ้งค์หรือการชุบสังกะสีด้วยไฟฟ้า มีความหนาประมาณ 5 – 10 ไมครอน เหมาะสำหรับงานที่ไม่เน้นการป้องการเกิดสนิมมากเป็นงานที่เน้นใช้ในที่ร่ม
คุณสมบัติของเหล็กชุบ
- การเคลือบของกัลวาไนซ์ หรือ สังกะสีทำให้ป้องกันการผุกร่อน เหล็ก GI (GALVANIZE IRON) ผ่านการรีดเย็น ข้อดีของการรีดเย็น คือ เหล็กที่ได้จะมีลักษณะผิวเรียบ ผิวมัน สามารถนำไปใช้งานได้เลย
- ส่วนผสมของกัลวาไนซ์หรือสังกะสีในเนื้อผิวและเหล็กจะป้องกันไม่ให้เหล็กเป็นสนิม จึงไม่จำเป็นต้องทาสีกันสนิมช่วยประหยัดค่าสีกันสนิมและประหยัดเวลาในการติดตั้งโครงสร้าง
รูปแบบของเหล็กชุบ
- เหล็กกล่องกัลวาไนซ์ เหมาะกับการใช้งานโครงสร้างหลักเสาบ้าน หรือเหล็กกล่องแบนเหมาะกับการใช้งานประเภทโครงสร้างรองของบ้าน โดยมีขนาดเริ่มต้น 3/4x 3/4 นิ้ว ส่วนเหล็กกล่องแบนจะเริ่มที่ขนาด 2×1 นิ้ว
- เหล็กตัวซีกัลวาไนซ์ เหมาะกับการใช้งานประเภทโครงหลังคา หรือโครงผนังภายในและภายนอกอาคาร มีขนาดเริ่มต้นที่ 75x45x15 cm.
- เหล็กท่อกลมกัลวาไนซ์ เหมาะกับการใช้งานทำโครงสร้างรั้วบ้าน หรือ นำไปประยุกต์ใช้เป็นท่อร้อยสายไฟ มีขนาดเริ่มต้นที่ 1/2 นิ้ว
ทำไมถึงเลือกทำกัลวาไนซ์แทนการทาสีกันสนิม ?
ข้อแตกต่างระหว่างการชุบกัลวาไนซ์ กับทาสีกันสนิม นั่นคือ การทาสีป้องกันสนิม จะเป็นการป้องกันไม่ให้ออกซิเจน และความชื้นในอากาศ เข้าไปทำปฎิกิริยากับเนื้อเหล็ก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้คือต้นเหตุของสนิม แตกต่างจากการชุบกัลวาไนซ์ คือ กัลวาไนซ์จะถูกกัดกร่อนแทนเนื้อเหล็กที่อยู่ภายใน ซึ่งจะช้ากว่าเหล็กจึงสามารถใช้งานได้ยาวนานและประหยัดต้นทุนได้เป็นอย่างดี
เหล็กชุบกัลวาไนซ์ vs เหล็กดำอะไรรับน้ำหนักได้ดีกว่ากัน ?
ในส่วนของความแข็งแรง เหล็กดำสามารถรองรับน้ำหนัก และถ่ายเทน้ำหนักได้ดีกว่า จึงทำให้นิยมใช้เป็นโครงสร้างหลัก ที่ต้องรองรับน้ำหนักมาก ๆ แต่ความแตกต่างที่ชัดเจนเลยก็คือ สีของผิวเหล็ก เหล็กชุบกัลวาไนซ์ (GI) จะเป็นสีขาว(เงิน) เนื่องจากผ่านกระบวนการเคลือบสังกะสี เพื่อให้สามารถทนต่อการกัดกร่อนเกิดสนิม ใช้งานภายนอกอาคารได้ดี เหมาะกับงานที่ต้องการโชว์ผิวของวัสดุ
ประโยชน์ของเหล็กชุบกัลวาไนซ์
- ประหยัดค่าสีกันสนิม เพราะเหล็กกัลวาไนซ์ นั้นมีผิวงานของสังกะสีเคลือบอยู่
- ประหยัดเวลา และค่าแรงในการทาสีกันสนิม สามารถใช้ได้ทันที
- ช่วยประหยัดในระยะยาว เนื่องจากอายุการใช้งานยาวนานกว่า 50 ปี และไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษามาก
- ประหยัดค่าเปลี่ยนเหล็กบ่อย ๆ เพราะ เหล็กกัลวาไนซ์มีความทนทานแดดฝน และแข็งแรง
- สะดวกในการกองเก็บวัสดุ ไม่ต้องคอยระวังกลัวเหล่าปัจจัยที่ทำให้เกิดสนิม
- การชุบกัลวาไนซ์ยังทำให้คุณทำความสะอาดพื้นผิวได้ง่าย
และข้อควรระวัง ข้อจำกัดของเหล็กกัลวาไนซ์คือ ไม่สามารถใช้งานในระบบท่อขนส่งน้ำประปาได้ เพราะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ เพราะสังกะสีสามารถปนเปื้อนลงไปในน้ำได้ และสำหรับในส่วนเนื้องานการเชื่อมต่อหากไม่มีความรู้ความสามารถ หรืออุปกรณ์ป้องกันที่ครบมือ ในระหว่างการเชื่อมเหล็กกัลวาไนซ์ อาจจะเกิดอันตรายได้ จากสารพิษที่เกิดจากสังกะสีกับคนงานได้เช่นกัน
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาการที่คุณจะเลือกใช้เหล็กกัลวาไนซ์ หรือเหล็กประเภทไหนก็ตามควรระมัดระวัง ศึกษาคุณสมบัติเป็นพิเศษ แต่การที่คุณมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่คอยดูแลเป็นพิเศษจะดียิ่งกว่า บริษัท ไวต้า ธานี จำกัด ตัวแทนจำหน่วยเหล็กเส้น เหล็กรูปพรรณ อันดับ 1 ในภาคกลางและภาคตะวันออกที่มีมาตรฐาน ได้รับการยอมรับในวงการงานก่อสร้าง ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณต้องให้เราดูแลเป็นพิเศษ เพราะรากฐานที่ดีต้องมาจากวัสดุที่ดี หากเลือกใช้วัสดุที่เหมาะกับประเภทของงาน โครงสร้างต่าง ๆ และการใช้งานก็จะใช้ได้นาน และถ้าคุณกำลังมองหาเหล็กกัลวาไนซ์ที่ดีที่สุด สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราตามข้อมูลที่อยู่ด้านล่างได้เลย
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท ไวต้า ธานี จำกัด
Tel : 094-4122337 (สายด่วน)
E-mail : vita.steel18@gmail.com
LINE : https://line.me/ti/p/%40edo4950u
Facebook : บจก.ไวต้า ธานี